โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) เป็นภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อเลือดไม่สามารถไหลเวียนไปยังสมองได้ตามปกติ ส่งผลให้เซลล์สมองบางส่วนถูกทำลายและอาจทำให้เกิดความพิการ เช่น เคลื่อนไหวแขนขาไม่ได้หรือพูดไม่ชัด อย่างไรก็ตาม การฟื้นฟูผู้ป่วยหลอดเลือดสมอง คือกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตใกล้เคียงปกติได้อีกครั้ง
หากคุณหรือคนที่คุณรักกำลังเผชิญกับ Stroke อย่าเพิ่งหมดหวัง! เพราะสมองของเรามีความสามารถในการปรับตัวและฟื้นฟูตัวเองได้ โดยเฉพาะหากได้รับการฝึกฝนและดูแลอย่างถูกวิธี
งานวิจัยล่าสุดจากJohns Hopkins มหาลัยแพทย์ระดับโลกเผยว่า: การฟื้นฟูผู้ป่วย Stroke ช่วยกระตุ้นสมองให้ปรับตัวได้
จากการศึกษาของมหาวิทยาลัย Johns Hopkins ซึ่งเป็นหนึ่งในสถาบันการแพทย์ชั้นนำของโลก พบว่า สมองสามารถ “เปลี่ยนแปลง” และสร้างการทำงานใหม่ได้ แม้จะมีส่วนที่เสียหายจาก Stroke
ในงานวิจัยนี้ นักวิจัยได้ทำการทดลองกับหนูทดลองโดยสอนให้พวกมันเอื้อมมือไปหยิบอาหาร จากนั้นจึงทำให้หนูเหล่านี้เกิด Stroke ในส่วนของสมองที่ควบคุมการเคลื่อนไหว (Primary Motor Cortex) ผลปรากฏว่า หนูไม่สามารถทำภารกิจนี้ได้เหมือนเดิม แต่เมื่อเริ่มฝึกฝนหนูอีกครั้งภายใน 2 วันหลังจาก Stroke พวกมันสามารถเรียนรู้ทักษะเดิมได้ภายใน 1 สัปดาห์
สิ่งที่น่าสนใจคือ สมองส่วนที่เสียหายไม่ได้ฟื้นคืน แต่สมองส่วนอื่นๆ เช่น Medial Premotor Cortex ได้เข้ามาทำหน้าที่แทน (Zeiler et al., Johns Hopkins Study)
นอกจากนี้ งานวิจัยยังระบุว่า การเริ่มฟื้นฟูเร็วเท่าไหร่ ผลลัพธ์ก็ยิ่งดีขึ้นเท่านั้น หากเริ่มฝึกซ้ำภายใน 1 วันหลังจาก Stroke หนูแสดงผลลัพธ์ที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน แต่หากเริ่มหลังจาก 7 วัน ผลลัพธ์จะลดลงอย่างมาก
แนวทางการฟื้นฟูผู้ป่วย Stroke
- เริ่มต้นเร็วและฝึกฝนบ่อยๆ
- การเริ่มฟื้นฟูสภาพร่างกายในช่วงแรกๆ หลังจาก Stroke มีความสำคัญมาก ยิ่งเริ่มเร็วเท่าไหร่ โอกาสฟื้นตัวก็ยิ่งดีขึ้นเท่านั้น
- การฝึกซ้ำๆ เช่น การเคลื่อนไหวแขนขา การฝึกพูด หรือการฝึกเดิน จะช่วยกระตุ้นให้สมองปรับตัวและสร้างการทำงานใหม่
- ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม
- การออกกำลังกายเบาๆ เช่น การเดินเร็ว ปั่นจักรยาน หรือว่ายน้ำ 30-60 นาทีต่อวัน จะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและการทำงานของระบบประสาท
- ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 4 วันต่อสัปดาห์
- ควบคุมอาหารและน้ำหนัก
- รับประทานอาหารแบบเมดิเตอร์เรเนียน เช่น น้ำมันมะกอก ธัญพืช ผัก และผลไม้ ซึ่งช่วยลดคอเลสเตอรอลและป้องกัน Stroke ครั้งที่สอง
- ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน โดยเฉพาะรอบเอวไม่ควรเกิน 31.5 นิ้วสำหรับผู้หญิง และ 37 นิ้วสำหรับผู้ชาย
- ใช้ยาตามคำแนะนำแพทย์
- หากคุณเป็น Stroke จากการขาดเลือด แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยาแอสไพรินหรือยาต้านการแข็งตัวของเลือด
- สำหรับผู้ที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ เช่น หัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว (Atrial Fibrillation) ควรใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น วาร์ฟาริน
ทำไมต้องเลือกเรา?
ที่ศูนย์ฟื้นฟูผู้ป่วย Stroke ของเรา เราใช้แนวทางการฟื้นฟูที่อ้างอิงจาก งานวิจัยระดับโลก เช่น การศึกษาจาก Johns Hopkins เพื่อออกแบบแผนการฟื้นฟูที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย
เรามีทีมนักกายภาพบำบัด นักกิจกรรมบำบัด และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมดูแลผู้ป่วยด้วยแผนการฟื้นฟูเฉพาะบุคคล รวมถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น การกระตุ้นไฟฟ้าสมอง เพื่อช่วยให้สมองปรับตัวได้ดียิ่งขึ้น
สรุป
การฟื้นฟูผู้ป่วยหลอดเลือดสมอง (Stroke) ไม่ใช่เรื่องยาก หากคุณมีเป้าหมายและได้รับการดูแลที่เหมาะสม ด้วยการฝึกฝนสมองและร่างกายอย่างต่อเนื่อง ผู้ป่วย Stroke สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติอีกครั้ง
หากคุณหรือคนที่คุณรักต้องการคำปรึกษาหรือวางแผนการฟื้นฟู ติดต่อเราได้ที่ศูนย์ฟื้นฟูผู้ป่วย Stroke ของเรา ที่นี่คือที่ที่เราจะช่วยเปลี่ยน “ความหวัง” ให้กลายเป็น “ความจริง”
อ้างอิงงานวิจัย :
- Zeiler, S. R., et al. (Johns Hopkins Study): การศึกษาเกี่ยวกับความสามารถของสมองในการปรับตัวและฟื้นฟูหลังจาก Stroke